แฟร์ดีโบรกเกอร์ประกันภัย ชวนรู้! รวม คำศัพท์ประกันภัยรถยนต์ ฉบับมือใหม่ ซื้อประกันรถยนต์ ต้องอ่านก่อนตัดสินใจ!
ทำไมต้องรู้คำศัพท์ก่อนตัดสินใจ ซื้อประกันภัยรถยนต์ กับ แฟร์ดีโบรกเกอร์?
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจ ซื้อประกันรถยนต์ ประเภทใด ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ ชั้น 1, 2+, 3+ หรือแม้แต่ พ.ร.บ. การทำความเข้าใจเงื่อนไขและคำศัพท์ต่าง ๆ จะช่วยให้คุณ:
เปรียบเทียบความคุ้มครองได้ถูกต้อง: เลือกแผน ประกันภัยรถยนต์ ที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณมากที่สุด
อ่านกรมธรรม์ได้เข้าใจ: ไม่ต้องกังวลเรื่องข้อกำหนดที่ซับซ้อน
เคลมได้อย่างมั่นใจ ไม่เสียสิทธิ์: รู้ว่าเมื่อเกิดเหตุต้องทำอย่างไรและมีสิทธิ์ได้รับอะไรบ้าง
ลดความเสี่ยงค่าใช้จ่ายแฝง: หลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่อาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
15 คำศัพท์ประกันภัยรถยนต์ที่ควรรู้ก่อน ซื้อประกันรถยนต์ แฟร์ดีโบรกเกอร์ประกันภัย ได้สรุปคำศัพท์สำคัญมาให้คุณแล้ว:
1. กรมธรรม์ประกันภัย (Policy) เอกสารสัญญาอย่างเป็นทางการระหว่างคุณกับบริษัท ประกันภัยรถยนต์ ที่ระบุขอบเขตความคุ้มครอง เงื่อนไข และจำนวนทุนประกัน
2. ผู้เอาประกันภัย (Insured) บุคคลที่ทำสัญญา ประกันภัยรถยนต์ และเป็นผู้มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเมื่อเกิดเหตุ
3. ผู้รับประโยชน์ (Beneficiary) บุคคลที่จะได้รับเงินชดเชยจากบริษัท ประกันภัยรถยนต์ แทนผู้เอาประกันในกรณีเสียชีวิต ตามที่ระบุในกรมธรรม์
4. เบี้ยประกันภัย (Premium) จำนวนเงินที่คุณต้องชำระให้กับบริษัท ประกันภัยรถยนต์ เพื่อแลกกับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
5. ทุนประกันภัย (Sum Insured) วงเงินสูงสุดที่บริษัท ประกันภัยรถยนต์ จะจ่ายให้เมื่อเกิดเหตุรถยนต์เสียหายสิ้นเชิงหรือสูญหาย ถือเป็นมูลค่าสูงสุดที่ได้รับความคุ้มครอง
6. ระยะเวลาคุ้มครอง (Coverage Period) ช่วงเวลาที่กรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ของคุณให้ความคุ้มครอง โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 12 เดือน
7. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ประกันภัยรถยนต์ ที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องมี เพื่อคุ้มครองบุคคลภายนอกที่ประสบอุบัติเหตุจากการใช้รถยนต์ โดยเน้นความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายต่อชีวิต
8. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (Voluntary Insurance) ประกันภัยรถยนต์ ที่คุณเลือกซื้อเพิ่มเติมจาก พ.ร.บ. เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น เช่น ประกันรถยนต์ ชั้น 1, 2+, 3+ ซึ่งจะคุ้มครองทั้งรถของคุณและรถคู่กรณี
9. ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) จำนวนเงินที่คุณต้องรับผิดชอบเองเมื่อมีการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี หรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ เช่น รถเฉี่ยวเสา ถอยชนกำแพง
10. ค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ (Deductible) จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยตกลงที่จะรับผิดชอบเองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพื่อแลกกับเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ที่ถูกลง ยิ่งกำหนดค่า Deductible สูง เบี้ยประกันก็จะยิ่งถูก
11. ค่าเสื่อมราคา (Depreciation) ค่าหักลดที่คิดตามอายุการใช้งานของอะไหล่หรือชิ้นส่วนรถยนต์ที่เสียหาย เช่น ยาง แบตเตอรี่ หรือชิ้นส่วนที่ต้องเปลี่ยนใหม่
12. ค่าสินไหมทดแทน (Claim Settlement) จำนวนเงินที่บริษัท ประกันภัยรถยนต์ จ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามมูลค่าความเสียหายจริงที่เกิดขึ้น เช่น ค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล
13. เคลมสด / เคลมแห้ง
- เคลมสด: การแจ้งเคลมทันที ณ จุดเกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่จากบริษัท ประกันภัยรถยนต์ เข้าตรวจสอบ
- เคลมแห้ง: การแจ้งเคลมภายหลังเหตุการณ์ โดยไม่มีคู่กรณี หรือเป็นความเสียหายที่ไม่เร่งด่วน เช่น รอยขีดข่วนเล็กน้อย
- ซ่อมอู่: การนำรถเข้าซ่อมที่อู่ซ่อมรถทั่วไป ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า
- ซ่อมห้าง (ซ่อมศูนย์): การนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการมาตรฐานของผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งมักจะใช้อะไหล่แท้
เข้าใจศัพท์ เข้าใจประกัน เลือก ประกันภัยรถยนต์ แบบมั่นใจกับ แฟร์ดีโบรกเกอร์!
เมื่อคุณเข้าใจคำศัพท์เหล่านี้แล้ว การเลือกแผน ประกันภัยรถยนต์ ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป คุณจะสามารถอ่านกรมธรรม์ได้อย่างละเอียด เคลมได้อย่างมั่นใจ ลดความสับสน และรู้เท่าทันทุกรายละเอียดของ ประกันภัยรถยนต์
แฟร์ดีโบรกเกอร์ประกันภัย พร้อมช่วยคุณหา ประกันภัยรถยนต์ ที่ใช่! เช็คราคาประกันภัยรถยนต์ จากบริษัทประกันชั้นนำ พร้อมเปรียบเทียบเบี้ยและความคุ้มครองที่หลากหลายได้ทันที
ปรึกษาฟรี! หรือเริ่มต้น ซื้อประกันรถยนต์ ผ่าน แฟร์ดีโบรกเกอร์ ได้ง่ายๆ ทำงานออนไลน์ได้ทุกที่ พร้อมทีมงานมืออาชีพดูแลคุณครบวงจร
อยากซื้อประกันภัยรถยนต์? เริ่มต้นอาชีพเสริมกับเรา หรือเลือกแผน ประกันภัยรถยนต์ ที่ใช่ คลิกเลย! Line : @194zxyyp